วันนี้ (๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เวลา ๐๗.๓๐ น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) มอบหมายให้ นางสาวสุวลักษณ์ จูสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคทช. ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตครบ ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ และถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา สมาชิกคณะรัฐมนตรี ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส ผู้บริหาร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ตลอดจนข้าราชการและประชาชนร่วมพิธีดังกล่าว ณ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
พิธีเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้ ประกอบโดยพระสงฆ์สมณศักดิ์จำนวน ๑๐ รูป อาทิ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธ สมเด็จพระมหารัชมุนี วัดไตรมิตร พระพรหมวัชรวิมลมุนี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระพรหมวชิรรังษี วัดบวรนิเวศ พร้อมด้วยคณะสงฆ์รวม ๑๐๐ รูป เจริญชัยมงคลคาถาและรับบิณฑบาต ณ บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์
ต่อมา เวลา ๐๘.๐๐ น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และวางพานพุ่มดอกไม้ถวายสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภาและผู้แทนประธานศาลฎีกาเข้าร่วมในพิธีด้วย
รัฐบาลได้กำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติทั้งสองพระองค์อย่างสมพระเกียรติ ระหว่างวันที่ ๑ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ประกอบด้วย
๑. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล
๒. พิธีวางพวงมาลาและพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ
๓. การประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ เพื่อให้ประชาชนร่วมสักการะ
๔. กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล เพื่อแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์วายพระราชกุศลถวายพระกุศล เพื่อแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระกรุณาธิคุณ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ว่า เป็นโอกาสสำคัญในการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า ผู้ทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศในหลายมิติ ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา วัฒนธรรม และงานสาธารณูปโภค ตลอดจนสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ผู้ทรงประกอบพระกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างอเนกประการ








