วันนี้ (23 กรกฎาคม 2568) เวลา 10.00 น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference)

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ทีได้เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและพื้นที่เขตรักษาพันธุ์และห้ามล่าสัตว์ป่า โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่อนุรักษ์อย่างเหมาะสม ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ลดความขัดแย้งกับภาครัฐ ภายใต้หลักอนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ควบคู่กับสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล โดยที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าตามบันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า (สชป.) และสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ลงวันที่ 29 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการแก้ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่อนุรักษ์

ที่ประชุมยังได้พิจารณากรอบแนวทางปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อรองรับการอยู่อาศัยและทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างชอบธรรม การส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อยังชีพ รวมทั้งเห็นชอบการขยายเวลาการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้

1. รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

2. กำหนดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนและแสวงหาข้อเท็จจริง

3. พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง

4. จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย เสนอต่อประธานกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อมอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป