สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอทองผาภูมิ องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมหารือและขับเคลื่อนการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐ ให้สามารถเข้าถึงระบบไฟฟ้าและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึงและยั่งยืน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 และวันที่ 8 ตุลาคม 2567

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ โดยมี นายชลธิศ สุรัสวดี ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่ พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สคทช. นายมูฮัมหมาด ยังหะสัน ผู้อำนวยการกองที่ดินของรัฐ และเจ้าหน้าที่ สคทช. รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาคส่วน

สาระสำคัญของการประชุม

ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาแนวทางบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางดำเนินงานร่วมกัน ดังนี้

• การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ กรมป่าไม้ จะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และพิจารณาความเหมาะสมของแนวทางการจัดหาพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่บ้านอีต่อง หมู่ที่ 1 ตำบลปิล๊อก โดยพิจารณาทั้งการปักเสาพาดสาย การใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบไมโครกริด (Microgrid) หรือการก่อสร้างหอคอยผลิตไฟฟ้า (Tower) โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการออกแบบภายใน 15 วัน
• องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก จะดำเนินการพิจารณาจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าดังกล่าว พร้อมทั้งสนับสนุนการประสานงานในระดับพื้นที่อย่างเต็มที่

แนวทางบูรณาการระหว่างหน่วยงาน

• กรมป่าไม้ และ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะร่วมกันวางแนวทางการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายใต้กรอบของกฎหมายและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
• อำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการพิจารณาแนวทางการรับรองสิทธิการอยู่อาศัยของประชาชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานได้อย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
• สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ทำหน้าที่ประสานงานหลักและติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนให้การดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่

ในช่วงบ่าย คณะผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่บ้านอีต่อง เพื่อรับฟังปัญหา ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากประชาชน ซึ่งประชาชนได้แสดงความพึงพอใจต่อความพยายามของหน่วยงานรัฐในการเข้ามาแก้ไขปัญหา และขอให้มีการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงความพร้อมในการมีส่วนร่วมกับภาครัฐทั้งในการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น

• หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนแสดงความพร้อมในการบูรณาการความร่วมมือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลให้ดียิ่งขึ้น
• การดำเนินงานในครั้งนี้เป็นต้นแบบของการขับเคลื่อนนโยบายในระดับพื้นที่ที่สามารถนำไปประยุกต์และขยายผลในพื้นที่อื่นทั่วประเทศได้ในอนาคตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน